วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558
แพะพันธุ์ในประเทศไทย
พันธุ์แพะ
1. แพะพื้นเมืองในประเทศไทย
แพะพันธุ์พื้นเมืองที่เลี้ยงในประเทศไทยจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยแพะพันธุ์พื้นเมืองในภาคใต้มีลักษณะคล้ายกับแพะพันธุ์กัตจังหรือแกมบิง กัตจัง
(Katjang หรือ Kacang หรือ Kambing Katjang) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งแพะทางภาคใต้เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 20-25 กิโลกรัม ความสูงประมาณ 50 เซนติเมตร โดยมากกว่าร้อยละ 65 ของแพะในภาคใต้จะมีสีดำ น้ำตาล หรือน้ำตาลสลับดำ ที่เหลือมีสีขาวหรือเหลือง มีเขาและขนเกรียน มีติ่งใต้คอ แพะเพศเมียเมื่อโตเต็มวัยจะมีปุ่มที่ขาหน้าอยู่สูงจากขาประมาณ 48.5 เซนติเมตร ส่วนแพะในแถบภาคตะวันตก เป็นแพะมาจากประเทศอินเดีย หรือปากีสถาน มีลักษณะรูปร่างใหญ่ แพะเพศเมียอายุ 1 ปี จะมีน้ำหนักประมาณ 12-13 กิโลกรัม สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดปี แม่แพะจะให้ลูกประมาณ 2 ตัว/การตั้งท้อง และบางตัวสามารถให้ลูกได้ถึง 2 ครั้ง/ปี ให้ผลผลิตทั้งเนื้อและนมต่ำ
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
แพะพันธุ์ต่างประเทศ
1. แพะพันธุ์ซาเนน (Saanen)
มีถิ่นกำเนิดใน Saanen Valley ทางตอนใต้ของเมือง Canton Berne ในประเทศ Switzerland เป็นแพะนมขนาดใหญ่ ให้นมสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ หนังมีขนสั้น สีขาวครีมหรือน้ำตาลอ่อน ดั้งจมูก และใบหน้าไม่โค้งงุ้ม ใบหูเล็ก และชี้ตั้งไปข้างหน้า ไม่มีเขาทั้งเพศผู้ และเพศเมีย มักพบเพศเป็นกระเทย (intersex) ค่อนข้างสูง โดยมีการตั้งข้องสังเกตว่าลักษณะกระเทยมีความสัมพันธ์กับลักษณะที่ไม่มีเขา เป็นแพะที่มีอัตราออกลูกแฝดสูง ตัวผู้หนักประมาณ 75 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 65 กิโลกรัม สูงทั่วไปประมาณ 70-90 เซนติเมตร เพศเมียมีเต้านมใหญ่ หัวนมเรียวยาว ให้น้ำนมประมาณ 2 ลิตร/วัน ให้นมนาน 240-300 วัน บางตัวสามารถผลิตน้ำนมได้ 2,000 กิโลกรัม/ปี น้ำนมมีไขมันประมาณ 3.5%
1. แพะพันธุ์ซาเนน (Saanen)
มีถิ่นกำเนิดใน Saanen Valley ทางตอนใต้ของเมือง Canton Berne ในประเทศ Switzerland เป็นแพะนมขนาดใหญ่ ให้นมสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ หนังมีขนสั้น สีขาวครีมหรือน้ำตาลอ่อน ดั้งจมูก และใบหน้าไม่โค้งงุ้ม ใบหูเล็ก และชี้ตั้งไปข้างหน้า ไม่มีเขาทั้งเพศผู้ และเพศเมีย มักพบเพศเป็นกระเทย (intersex) ค่อนข้างสูง โดยมีการตั้งข้องสังเกตว่าลักษณะกระเทยมีความสัมพันธ์กับลักษณะที่ไม่มีเขา เป็นแพะที่มีอัตราออกลูกแฝดสูง ตัวผู้หนักประมาณ 75 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 65 กิโลกรัม สูงทั่วไปประมาณ 70-90 เซนติเมตร เพศเมียมีเต้านมใหญ่ หัวนมเรียวยาว ให้น้ำนมประมาณ 2 ลิตร/วัน ให้นมนาน 240-300 วัน บางตัวสามารถผลิตน้ำนมได้ 2,000 กิโลกรัม/ปี น้ำนมมีไขมันประมาณ 3.5%
2. แพะพันธุ์แองโกลนูเบียน (Anglo-Nubian)
เป็นแพะที่นำเข้ามาโดยกรมปศุสัตว์ ลำตัวมีขนาดใหญ่ น้ำหนักแรกเกิดประมาณ 2 – 5 กิโลกรัม หย่านมที่ระยะ 3 เดือน ที่น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม จมูกมีลักษณะโด่ง งุ้มลงบริเวณปาก ใบหูยาวเหมือนหูโค เป็นแพะที่ไม่มีเขา แต่บางครั้งอาจพบเขาสั้นๆ ขนมีลักษณะสั้น เป็นมัน ขนมีหลายสี เช่น สีดำ สีเทา สีครีม สีน้ำตาล สีขาว ซึ่งมักพบได้หลายสีบนลำตัว ส่วนขามีลักษณะยาว ทำให้ง่ายต่อการรีดนม ให้นมน้อยประมาณวันละ 1.5 ลิตร ไขมันนม 5% ให้นมนาน 165-200 วัน สามารถเลี้ยงเพื่อผลิตนม และให้เนื้อเป็นหลัก
เป็นแพะที่นำเข้ามาโดยกรมปศุสัตว์ ลำตัวมีขนาดใหญ่ น้ำหนักแรกเกิดประมาณ 2 – 5 กิโลกรัม หย่านมที่ระยะ 3 เดือน ที่น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม จมูกมีลักษณะโด่ง งุ้มลงบริเวณปาก ใบหูยาวเหมือนหูโค เป็นแพะที่ไม่มีเขา แต่บางครั้งอาจพบเขาสั้นๆ ขนมีลักษณะสั้น เป็นมัน ขนมีหลายสี เช่น สีดำ สีเทา สีครีม สีน้ำตาล สีขาว ซึ่งมักพบได้หลายสีบนลำตัว ส่วนขามีลักษณะยาว ทำให้ง่ายต่อการรีดนม ให้นมน้อยประมาณวันละ 1.5 ลิตร ไขมันนม 5% ให้นมนาน 165-200 วัน สามารถเลี้ยงเพื่อผลิตนม และให้เนื้อเป็นหลัก
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
3. แพะพันธุ์เบอร์ (Boer)
เ็ป็นแพะที่นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้ เมือปี พ.ศ.2539 โดยกรมปศุสัตว์ เป็นแพะเนื้อขนาดใหญ่ ลักษณะเด่น คือ มีขาสั้น ขนเรียบสั้นสีขาว แต่บริเวณส่วนหัว และคอจะมีสีแดง มีใบหูยาว ตัวผู้หนักประมาณ 90-100 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 65-70 กิโลกรัม จำนวนลูก 2-3 ตัว/ครอก และมีอัตราการให้ลูกแฝดสูง ให้น้ำนมวันละ 1.3-1.8 กิโลกรัม ให้นมนาน 120 วัน นิยมเลี้ยงเป็นแพะเนื้อมากกว่าแพะนม
เ็ป็นแพะที่นำเข้าจากประเทศแอฟริกาใต้ เมือปี พ.ศ.2539 โดยกรมปศุสัตว์ เป็นแพะเนื้อขนาดใหญ่ ลักษณะเด่น คือ มีขาสั้น ขนเรียบสั้นสีขาว แต่บริเวณส่วนหัว และคอจะมีสีแดง มีใบหูยาว ตัวผู้หนักประมาณ 90-100 กิโลกรัม ตัวเมียหนักประมาณ 65-70 กิโลกรัม จำนวนลูก 2-3 ตัว/ครอก และมีอัตราการให้ลูกแฝดสูง ให้น้ำนมวันละ 1.3-1.8 กิโลกรัม ให้นมนาน 120 วัน นิยมเลี้ยงเป็นแพะเนื้อมากกว่าแพะนม
4. แพะพันธุ์ทอกเกนเบอร์ก (Toggenburg)
เ็ป็นแพะที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หุบเขาทอกเกนเบอร์ก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสวิสเซอร์แลนด์ มีลักษณะลำตัวใหญ่ ขนสั้น ขนเพศผู้จะยาวกว่าเพศเมีย ขนมีสีน้ำตาลหรือสีเทาแกมเหลือง ใบหูสั้น และชี้ตั้ง หน้าตรง มีแถบสีขาวข้างแก้ม น้ำหนักแรกเกิด 3.5 กิโลกรัม น้ำหนักเมื่อ 3 เดือน 18 กิโลกรัม ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่หนัก 60-70 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 50-55 กิโลกรัม ให้น้ำนม เฉลี่ย 1.5-2 ลิตร/วัน ไขมันนมประมาณ 3.4% ให้นมนานกว่า 200 วัน
เ็ป็นแพะที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หุบเขาทอกเกนเบอร์ก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสวิสเซอร์แลนด์ มีลักษณะลำตัวใหญ่ ขนสั้น ขนเพศผู้จะยาวกว่าเพศเมีย ขนมีสีน้ำตาลหรือสีเทาแกมเหลือง ใบหูสั้น และชี้ตั้ง หน้าตรง มีแถบสีขาวข้างแก้ม น้ำหนักแรกเกิด 3.5 กิโลกรัม น้ำหนักเมื่อ 3 เดือน 18 กิโลกรัม ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่หนัก 60-70 กิโลกรัม ตัวเมียหนัก 50-55 กิโลกรัม ให้น้ำนม เฉลี่ย 1.5-2 ลิตร/วัน ไขมันนมประมาณ 3.4% ให้นมนานกว่า 200 วัน
5. แพะพันธุ์อัลไพน์ (Alpine)
เ็ป็นแพะที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาแอลพ์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และในออสเตรเลีย แบ่งเป็น 4 พันธุ์ คือ สวิสอัลไพน์ (Swiss Alpine), เฟรนซอัลไพน์ (French Alpine), อิตาเลียนอัลไพน์ (Italian Alpine) และบริทิชอัลไพน์ (British Alpine) เป็นแพะที่มีลำตัวขนาดใหญ่ ขนมีลักษณะเรียบสั้น เป็นมัน ขนมีสีน้ำตาลหรือดำ ใบหูเล็ก ชี้ตั้ง มีแถบสีข้างแก้ม หน้า และดั้งจมูกตรง อาจจะมีเขาหรือไม่มีเขาก็ได้ เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 75-80 เซนติเมตร เพศผู้หนัก 65-75 กิโลกรัม เพศเมียหนัก 55-60 กิโลกรัม เป็นแพะพันธุ์นม พันธุ์นี้เลี้ยงเพื่อผลิตนมเป็นหลักและเนื้อเป็นรอง ให้น้ำนมเฉลี่ย 0.9 -1.3 ลิตร/วันร ให้นมนาน 200-240 วัน เหมาะสำหรับเลี้ยงให้น้ำนม และเนื้อเป็นหลัก
เ็ป็นแพะที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาแอลพ์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และในออสเตรเลีย แบ่งเป็น 4 พันธุ์ คือ สวิสอัลไพน์ (Swiss Alpine), เฟรนซอัลไพน์ (French Alpine), อิตาเลียนอัลไพน์ (Italian Alpine) และบริทิชอัลไพน์ (British Alpine) เป็นแพะที่มีลำตัวขนาดใหญ่ ขนมีลักษณะเรียบสั้น เป็นมัน ขนมีสีน้ำตาลหรือดำ ใบหูเล็ก ชี้ตั้ง มีแถบสีข้างแก้ม หน้า และดั้งจมูกตรง อาจจะมีเขาหรือไม่มีเขาก็ได้ เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 75-80 เซนติเมตร เพศผู้หนัก 65-75 กิโลกรัม เพศเมียหนัก 55-60 กิโลกรัม เป็นแพะพันธุ์นม พันธุ์นี้เลี้ยงเพื่อผลิตนมเป็นหลักและเนื้อเป็นรอง ให้น้ำนมเฉลี่ย 0.9 -1.3 ลิตร/วันร ให้นมนาน 200-240 วัน เหมาะสำหรับเลี้ยงให้น้ำนม และเนื้อเป็นหลัก
6. แพะพันธุ์หลาวซาน (Laoshan)
แพะพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนที่พัฒนามาจากแพะพันธุ์ซาแนน นำเข้ามาไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545 โดยรัฐบาลจีน จากจังหวัด Shandong จำนวน 2 คู่ เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยนำไปเลี้ยงที่ และขยายพันธุ์ที่ศูนย์วิจัย และบำรุงพันธุ์สัตว์ จ. นครราชสีมา แพะพันธุ์นี้มีลักษณะขนสีขาว ยาวเล็กน้อย แต่จะยาวมากกบริเวณแก้ม ส่วนหูมีลักษณะสั้น ชี้ตั้ง เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 80 กก. ตัวเมียประมาณ 60 กก. ผลผลิตนมเฉลี่ย 2.2 ลิตรต่อวัน ระยะการให้นม 200 วัน
แพะพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนที่พัฒนามาจากแพะพันธุ์ซาแนน นำเข้ามาไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545 โดยรัฐบาลจีน จากจังหวัด Shandong จำนวน 2 คู่ เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ โดยนำไปเลี้ยงที่ และขยายพันธุ์ที่ศูนย์วิจัย และบำรุงพันธุ์สัตว์ จ. นครราชสีมา แพะพันธุ์นี้มีลักษณะขนสีขาว ยาวเล็กน้อย แต่จะยาวมากกบริเวณแก้ม ส่วนหูมีลักษณะสั้น ชี้ตั้ง เมื่อโตเต็มที่ ตัวผู้หนักประมาณ 80 กก. ตัวเมียประมาณ 60 กก. ผลผลิตนมเฉลี่ย 2.2 ลิตรต่อวัน ระยะการให้นม 200 วัน
ที่มา : บุญเสริม ชีวะอิสระกุล, 2546.(3)
แหล่งที่มา ::ที่มา : วินัย ประลมพ์กาญจน์, 2542.(1)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
pgsoft pgslot รวมเกมดัง เว็บไซต์สล็อต pgsoft pgslot ศูนย์รวมเกมสล็อตแตกง่าย มีเกมจากทุกค่าย มีทุกเกมบนโลก เกมที่กำลังเป็นกระแส หรือ เกมนอกกระแสก็ตาม เราได้ทำซื้อลิขสิทธิ์แท้โดยตรง
ตอบลบ